นับตั้งแต่การก่อตั้งของรายการ “พรีเมียร์ลีก” (English Premier League) อย่างเป็นทางการในฤดูกาล 1992-93 ทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษได้มีการบันทึกสถิติที่สำคัญต่าง ๆ ของผู้เล่นและสโมสรเอาไว้มากมาย
หนึ่งในสถิติที่ผู้คนให้ความสนใจและมีความโดดเด่นมากที่สุดคือ “ผู้ทำประตูสูงสุดในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ” หรือที่แฟนบอลไทยอาจคุ้นเคยกับคำว่า “ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกอังกฤษ” โดยสถิติที่น่าสนใจในปี 2023 นั้นคือ มีผู้เล่น 34 คนที่สามารถทำได้เกิน 100 ประตูขึ้นไปในรายการพรีเมียร์ลีก โดยผู้เล่นเหล่านี้จะได้รับการขนานนามอย่างเป็นทางการในกลุ่ม “Premier League 100 Club”
ผู้เล่นคนแรกในพรีเมียร์ลีกที่สามารถทำประตูได้ครบ 100 ลูก คือ อลัน เชียร์เรอร์ (Alan Shearer) กองหน้าสัญชาติอังกฤษ โดยเขาทำสถิตินี้เอาไว้ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 1995-96 พร้อมกับทำสถิติในการทำ 100 ประตูโดยใช้จำนวนเกมน้อยที่สุดอยู่ที่ 124 นัดเท่านั้น นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ประทำประตูสูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก อยู่ที่ 260 ประตูอีกด้วย
ส่วนสถิติอื่น ๆ ที่น่าสนใจในกลุ่ม Premier League 100 Club จะมี แฮร์รี เคน (Harry Kane) กองหน้าสัญชาติอังกฤษอีกคนที่สามารถทำได้ 100 ประตู ภายใน 141 เกม ทำให้เขาเป็นผู้เล่นคนที่สองของลีกที่ทำประตูด้วยจำนวนนัดน้อยที่สุด รองจากเชียร์เรอร์คนเดียวเท่านั้น
ในขณะที่ ไมเคิล โอเวน (Michael Owen) กองหน้าสัญชาติอังกฤษที่เป็นเจ้าของสถิติผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำได้ 100 ประตูในพรีเมียร์ลีก พร้อมกับทำไว้ 150 ประตูในพรีเมียร์ลีก กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 10 ที่ทำประตูสูงสุดตลอดกาล
แต่ล่าสุด ในปี 2023 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) ได้ทำลายสถิติ Top 10 ของโอเวนลง ด้วยการทำไป 151 ประตู จากการลงเล่นในลีกไป 250 นัด เขากลายเป็นผู้เล่นที่ขึ้นมาอยู่อันดับ 10 ในตารางดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกตลอดกาลแทนโอเวน แล้วด้วยระยะสัญญาที่ซาลาห์ยังมีอยู่กับลิเวอร์พูล เขายังคงมีโอกาสไล่ตามผู้เล่น 9 อันดับที่เหลือได้ แต่ทั้งหมดนี้ยังคงเป็นบทพิสูจน์สำคัญสำหรับชายคนนี้ว่าเขาจะก้าวผ่านทุกอย่างไปได้หรือไม่
แล้วผู้เล่น Top 10 ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกอังกฤษทั้งหมด (นับลงมาจากปี 2023) เป็นใครบ้าง พวกเขามีผลงานโดดเด่นอย่างไร ในปัจจุบันเป็นอย่างไร เรามีสรุปให้แล้วที่นี่
ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกอันดับ 10: โมฮาเหม็ด ซาลาห์
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ฮาเหม็ด มาห์รัส กาห์ลี กองหน้าสัญชาติอียิปต์ผู้เป็นกัปตันทีมของทีมชาติและเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในบรรดาผู้เล่นลิเวอร์พูลยุคเดียวกัน เคยเป็นผู้เล่นที่ไม่ได้เฉิดฉายมากนักในช่วงที่เขาย้ายจากสโมสรบาเซิลในบ้านเกิดตัวเอง เข้าสู่สโมสรเชลซีในพรีเมียร์ลีก ในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับ “สิงห์บลู” เขาได้ลงเล่นไปเพียง 19 เกม ใน 2 ฤดูกาล ก่อนที่จะถูกปล่อยยืมไปให้กับฟิออเรนตินาและโรมาในเวลาต่อมา
แต่พอเข้าสู่ฤดูกาล 2017-18 ของพรีเมียร์ลีก สโมสรลิเวอร์พูล ภายใต้การดูแลของ เยอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ได้คว้าตัวผู้เล่นรายนี้เข้ามาเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในแนวหน้า เขามีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก แชมป์เอฟเอคัพ แชมป์ลีกคัพ คอมมิวนิตีชิลด์ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ยูฟ่าซูเปอร์คัพ และ ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ มาแล้วทั้งสิ้น
โดย โม ซาลาห์ ได้ทำลายสถิติในการทำประตูหรือมีส่วนร่วมกับประตูไว้มากมายทั้งในระดับสโมสรและพรีเมียร์ลีก เขาได้การยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นปีกขวาที่ดีที่สุดคนหนึ่งของยุคและเป็นหนึ่งในผู้เล่นแอฟริกันที่ดีที่สุดตลอดกาล
ในปัจจุบัน ซาลาห์ยังคงโลดแล่นกับลิเวอร์พูล โดยสัญญาของเขาจะหมดลงในเดือนมิถุนายน 2025 เขามีส่วนร่วมกับประตูมาแล้วอย่างต่อเนื่อง เขายังคงสร้างความท้าทายในการทำลายสถิติการทำประตูในพรีเมียร์ลีก เพื่อรักษาและไต่อันดับ Top 10 ของเขาให้ได้
ในปี 2023 เขาทำไปทั้งหมด 151 ประตู แซงหน้า ไมเคิล โอเวน ที่เคยทำไว้ 150 ประตู พร้อมกับขึ้นสู่ดาวซัลโวสูงสุดอันดับ 10 ได้สำเร็จ
อันดับ 9: เจอร์เมน เดโฟ
เจอร์เมน คอลิน เดโฟ ตำนานกองหน้าตัวเป้าของเวสต์แฮมยูไนเต็ดและสเปอร์ส เขาเป็นผู้เล่นที่เติบโตมาจากอคาเดมีของ ชาร์ลตัน อัทเลติก ก่อนที่จะย้ายไปแจ้งเกิดกับเวสต์แฮมยูไนเต็ด เขามีโอกาสได้ลงเล่นกับเวสต์แฮมในทีมชุดใหญ่อย่างเป็นทางการมานานกว่า 5 ปี นับตั้งแต่ปี 1999 โดยเขาทำไปทั้งหมด 29 ประตูในพรีเมียร์ลีก แต่ด้วยผลงานที่ย่ำแย่ของสโมสร ในขณะที่ฟอร์มของเขายังโดดเด่น เขาได้รับโอกาสในการย้ายทีมไปเล่นให้กับ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ แทน
หลังจากนั้นเป็นต้นมา เขาได้เล่นให้กับสเปอร์ส พอร์ทสมัท ซันเดอร์แลนด์ และ บอร์นมัท รวมทั้งหมดเป็น 5 สโมสรพรีเมียร์ลีก
เดโฟ แขวนสตั้ตอย่างเป็นทางการกับสโมสรซันเดอร์แลนด์ในปี 2022 พร้อมกับมีโอกาสได้รับงานดูแลสโมสรเรนเจอร์สในสกอตแลนด์เมื่อปี 2021 อีกด้วย
ในปัจจุบัน เขาได้มีส่วนร่วมในฟุตบอลผ่านวงการคอมเมนเตเตอร์ของพรีเมียร์ลีกเป็นวาระโอกาส หลายคนอาจยังคุ้นหน้าคุ้นตาเขาผ่านหน้าจอทีวีกันอยู่บ้าง
แล้วถ้าหากนับจากสถิติการทำประตูรวมของเขาในพรีเมียร์ลีกทุกสโมสรแล้ว เขาทำไปทั้งหมด 162 ประตู ครองอันดับ 9 ของตารางในปี 2023
อันดับ 8: ร็อบบี ฟาวเลอร์
ร็อบบี เบอร์นาร์ด ฟาวเลอร์ กองหน้าสัญชาติอังกฤษ คือหนึ่งในดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกผู้เป็นที่รู้จักในช่วงเวลาที่เขาเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าให้กับสโมสรลิเวอร์พูล เขาทำไปทั้งหมด 183 ประตูให้กับสโมสร จนทำให้ได้ฉายะ “พระเจ้า” จากแฟน ๆ ในถิ่นแอนฟิลด์ พร้อมกับเป็นหนึ่งในตำนานของสโมสรที่แฟน “หงส์แดง” หลายคนจดจำได้อย่างดี ปัจจุบันเขาเป็นผู้เล่นที่ทำประตูสูงสุดตลอดกาลอันดับ 2 ในทุกรายการกับสโมสรลิเวอร์พูล
สโมสรสุดท้ายที่เขาได้เล่น คือสโมสรเมืองทองยูไนเต็ดในประเทศไทย เมื่อปี 2011-2012 โดยเป็นทั้งผู้เล่นและผู้จัดการทีมไปพร้อมกัน หลังจากนั้นเขายังมีโอกาสได้ไปคุมทีม บริสเบน โรอาร์, อีสต์ เบงกัล และ อัล-คาดิซิยาห์มาแล้วอีกด้วย
ฟาวเลอร์ เล่นให้กับสโมสรในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว 4 ทีม ได้แก่ ลิเวอร์พูล, ลีดส์ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ซิตี้ และ แบล็คเบิร์นโรเวอร์ส โดยเขาทำประตูในพรีเมียร์ลีกรวมกันทุกสโมสรไปแล้ว 163 ประตู จากการลงเล่นไป 379 นัด กลายเป็นผู้เล่นอันดับ 8 ในตารางผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก
อันดับ 7: เทียร์รี อองรี
เทียร์รี ดาเนียล อองรี กองหน้าสัญชาติฝรั่งเศสผู้ที่แจ้งเกิดมาตั้งแต่สมัยเล่นให้กับโมนาโก ก่อนที่จะมาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับสโมสรอาร์เซนอลในพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ปี 1999 ถึง 2007 เขาเป็นผู้เล่นกองหน้าที่พาอาร์เซนอลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพมาแล้วอย่างละ 2 สมัย ก่อนที่จะไปเฉิดฉายอีกครั้งหลังจากย้ายไปอยู่บาร์เซโลนา ในระดับทีมชาติฝรั่งเศส เขายังสามารถคว้าแชมป์โลกในปี 1998 ได้อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ทำให้อองรีได้การยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดตลอดกาลคนหนึ่งของโลก ในปัจจุบัน เขาเป็นผู้จัดการทีมชาติฝรั่งเศส ชุด U-23 ตั้งแต่ช่วงปี 2023 โดยเขายังเป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกสำคัญของทีมชาติฝรั่งเศสชุดหลักอีกด้วย หากในวันหนึ่ง ดิดิเยร์ เดสชองส์ ผู้จัดการทีมคนปัจจุบันหมดสัญญากับทีมชาติในวันหนึ่งไป
ในระดับพรีเมียร์ลีก เขาเล่นอยู่แค่กับสโมสรอาร์เซนอลเท่านั้น พร้อมกับทำประตูในพรีเมียร์ลีกไป 175 ประตู จากการลงเล่น 258 นัด กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 7 ของตารางผู้ทำประตูสูงสุดในพรีเมียร์ลีก
อันดับ 6: แฟรงค์ แลมพาร์ด
แฟรงค์ เจมส์ แลมพาร์ด ตำนานกองกลางสัญชาติอังกฤษ เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาลของสโมสรเชลซี พร้อมกับเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกในยุคของเขา เขาเป็นเจ้าของสถิติกองกลางพรีเมียร์ลีกที่ทำประตูได้สูงสุดตลอดกาลและสามารถทำประตูนอกกรอบเขตโทษได้มากที่สุดอีกด้วย (ยิงนอกกรอบ 41 ประตู)
แลมพาร์ด เป็นผู้เล่นที่เริ่มอาชีพการค้าแข้งมาจากสโมสรเวสต์แฮมยูไนเต็ดในปี 1995 ถึงปี 2001 ก่อนที่จะได้รับการไว้วางใจจากเชลซีด้วยการย้ายเข้าทีมในปี 2001 โดยในช่วงเวลาของเขากับทีม “สิงห์บลู” เขาทำไปทั้งหมด 211 ประตูในทุกรายการ จากการลงเล่น 648 นัด พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย เอฟเอคัพ 4 สมัย ลีกคัพ 2 สมัย รวมถึงแชมเปียนส์ลีกและยูโรปาลีกอีกอย่างละสมัย ก่อนที่จะไปจบอาชีพการค้าแข้งกับสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้และนิวยอร์กซิตี้เอฟซี
หลังจากนั้นมา เขามีโอกาสได้ไปคุมทีมดาร์บีเคาท์ตี เชลซี และเอฟเวอร์ตัน แต่กลับยังไม่มีผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไรนัก จนต้องพักจากงานผู้จัดการทีมไป
ในการลงเล่นพรีเมียร์ลีกของแลมพาร์ดกับสโมสรเวสต์แฮมยูไนเต็ด เชลซี และ แมนเชสเตอร์ซิตี้ เขาทำไปทั้งหมด 177 ประตู จากการลงเล่น 609 นัด ครองอันดับ 6 ของตารางดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกตลอดกาลในปี 2023
อันดับ 5: เซร์กิโอ อเกวโร
เซร์กิโอ เลโอเนล อเกวโร เดล กาสติโย หรือที่รู้จักสั้น ๆ ในนาม กุน อเกวโร เป็นตำนานกองหน้าสัญชาติอาร์เจนตินา เขาคือผู้เล่นที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก เขาคือผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลให้กับสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ อยู่ที่ 260 ประตู ตลอดการค้าแข้งนานกว่า 10 ปีกับสโมสรแห่งนี้
นอกจากนี้ เขายังเป็นเจ้าของสถิติผู้ทำแฮททริคมากที่สุดตลอดกาลในพรีเมียร์ลีก ด้วยจำนวน 12 ครั้ง เขาคือผู้เล่นคนสำคัญที่ทำให้ซิตี้สามารถคว้าแชมป์ลีกได้ 5 สมัย เอฟเอคัพ 1 สมัย ลีกคัพ 6 สมัย และคอมมิวนิตีชิลด์ 3 สมัย ส่วนในระดับทีมชาติอาร์เจนตินา เขาสามารถคว้ารางวัล “โคปาอเมริกา” ในปี 2021 ได้สำเร็จ
กุน อเกวโร คือหนึ่งในกองหน้าที่มีความเฉียบคมในการทำประตู เขาเป็นผู้เล่นที่มีขนาดตัวเล็กแต่มีความคล่องแคล่วว่องไว สามารถสร้างสรรค์โอกาสในการทำประตูได้ดี เขาเคยหาโอกาสในการย้ายทีมไปอยู่บาร์เซโลนาเพื่อไปเล่นกับ ลีโอเนล เมสซี ตำนานนักเตะอาร์เจนตินา แต่ในฤดูกาล 2021-22 เมสซีกลับต้องย้ายไปอยู่ปารีสแทน ในขณะที่ตัวเขาเองได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ทำให้ไม่สามารถเล่นกับบาร์ซาได้เต็มฤดูกาลและต้องรีไทร์จากฟุตบอลไปในที่สุด
ในระดับพรีเมียร์ลีก เขาเล่นไปกับสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้เพียงสโมสรเดียว พร้อมกับทำประตูในพรีเมียร์ลีกไป 184 ประตูจากการลงเล่น 275 นัด ครองอันดับ 5 ของตารางไปในปี 2023
อันดับ 4: แอนดี โคล
แอนดรูว์ อเล็กซานเดอร์ โคล หรือที่รู้จักสั้น ๆ ในนาม แอนดี โคล เป็นกองหน้าสัญชาติอังกฤษสายพเนจรในพรีเมียร์ลีก เขาเป็นที่จดจำมากที่สุดในช่วงเวลาที่ค้าแข้งให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด พร้อมกับพาสโมสรคว้าถ้วยรางวัลมาแล้ว 9 รายการในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
หนึ่งในความสำเร็จสูงสุดของเขาคือการคว้า Treble Champ ในปี 1999 นั่นเอง ก่อนหน้านี้ เขาเป็นเจ้าของสถิติผู้ทำประตูสูงสุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลเดียวอยู่ที่ 34 ประตู ก่อนที่จะถูก เออร์ลิง ฮาลันด์ ทำลายสถิตินี้ไป นอกจากนี้ เขายังเป็นเจ้าของสถิติผู้ทำ 50 ประตูได้ภายใน 65 นัด พร้อมกับเป็นผู้ทำประตูและแอสซิสต์สูงสุดในฤดูกาล 1993-94 อีกด้วย
แอนดี โคล ใช้เวลาในการค้าแข้งมานานกว่า 19 ปีในระดับสโมสรบนเกาะอังกฤษ เขาเล่นให้กับทั้งกับสโมสรนิวคาสเซิล, แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, แบล็กเบิร์น, ฟูแลม, แมนเชสเตอร์ซิตี้, พอร์ทสมัท และ ซันเดอร์แลนด์ พร้อมกับทำประตูในพรีเมียร์ลีกไป 187 ประตูจากการลงเล่น 414 นัด ครองอันดับ 4 ของตารางไปในปี 2023
อันดับ 3: เวย์น รูนีย์
เวย์น มาร์ค รูนีย์ เป็นตำนานกองหน้าและกองกลางตัวรุกสัญชาติอังกฤษผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกและในยุคของเขา เขาเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (253 ประตู) พร้อมกับเคยเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติอังกฤษ ก่อนที่จะถูก แฮร์รี เคน ล้มสถิติในทีมชาติไป
รูนีย์คือผู้เล่นที่เติบโตมาพร้อมกับสโมสรเอฟเวอร์ตัน เขาใช้เวลาเล่นอยู่ที่แห่งนี้ 2 ปี ก่อนที่จะได้รับความสนใจจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โดยเขาเป็นฟันเฟืองคนสำคัญของทีมที่พา “ปีศาจแดง” คว้าแชมป์ 16 รายการตลอดการค้าแข้ง 13 ปีที่สโมสรแห่งนี้จนได้รับการยกย่องว่าเป็นตำนานคนสำคัญของแมนฯ ยูไนเต็ดอีกด้วย
นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้เล่นอังกฤษร่วมกับ ไมเคิล คาร์ริค ที่สามารถคว้า 6 รายการแชมป์ (พรีเมียร์ลีก, ลีกคัพ, เอฟเอคัพ, ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ยูโรปาลีก และ ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ) ได้ทั้งหมด
หลังจากแขวนสตั้ตในปี 2021 ที่ดาร์บีเคาท์ตี เขาได้เริ่มเป็นผู้จัดการทีมกับสโมสรแห่งนี้ต่อเป็นเวลา 2 ปี (ควบตั้งแต่ช่วงที่เขาเป็นผู้เล่นในปี 2020 ด้วย) ก่อนที่จะไปคุมดีซียูไนเต็ดอีก 1 ปี แล้วกลับมาคุมเบอร์มิงแฮมบนเกาะอังกฤษอีกครั้งในปี 2023
เวย์น รูนีย์ ค้าแข้งกับสโมสรพรีเมียร์ลีกมา 2 แห่งคือ เอฟเวอร์ตันและแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดยเขาทำไปทั้งหมด 208 ประตู จากการลงเล่น 491 เกมในพรีเมียร์ลีก กลายเป็นผู้เล่นอันดับ 3 ดาวยิงพรีเมียร์ลีกตลอดกาลในปี 2023
อันดับ 2: แฮร์รี เคน
แฮร์รี เอ็ดเวิร์ด เคน คือหนึ่งในกองหน้าตัวเป้าสัญชาติอังกฤษที่ได้การยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของยุค เขาคือเจ้าของสถิติผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลให้กับสโมสรทอตแนมฮอตสเปอร์ พร้อมกับทำประตูตลอดอาชีพการค้าแข้งไปแล้วมากกว่า 350 ประตูในปี 2023
เคน คือกองหน้าที่มีเส้นทางเติบโตมาจากอคาเดมี 5 แห่งบนเกาะอังกฤษ ก่อนที่จะไปจบด้วยการขึ้นสู่ผู้เล่นชุดหลักของสเปอร์สในปี 2009 แต่ต้องถูกปล่อยยืมตัวมาต่อเนื่องจนถึงปี 2013 หลังจากนั้นในปี 2014 เคนได้เริ่มเฉิดฉายกับสเปอร์สอย่างจริงจังด้วยการทำประตูให้กับทีมอย่างต่อเนื่อง จนได้รับความไว้วางใจจากสโมสรให้อยู่กับพวกเขาไปยาวนานจนถึงปี 2023
ส่วนในระดับทีมชาตินั้น เขาก็เป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 62 ประตู ในปี 2023 แซงหน้าเจ้าของสถิติเดิมอย่าง เวยน์ รูนีย์ ไปอีกด้วย แต่ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ เขากลับไม่เคยได้คว้าถ้วยแชมป์ใด ๆ เลยจนถึงปี 2023
หลังจากหมดสัญญาลงในปี 2023 กับสเปอร์ส เคนได้รับความสนใจจากบาเยิร์นมิวนิค เขาได้สวมเสื้อเบอร์ 9 กับทางสโมสร พร้อมกับเฉิดฉายอย่างจริงจังด้วยการทำไปมากถึง 25 ประตูและอีก 5 แอสซิสต์ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้ามาเล่นให้กับที่แห่งนี้เพียง 22 นัดในทุกรายการเท่านั้น กลายเป็นดาวซัลโวอังกฤษที่ไปเฉิดฉายในลีกเยอรมนีอย่างน่าทึ่งเลยทีเดียว
แฮร์รี เคน ค้าแข้งกับสโมสรพรีเมียร์ลีกมา 2 แห่งคือ สเปอร์สและนอริชซิตี้ โดยเขาทำไปทั้งหมด 213 ประตู จากการลงเล่น 320 เกมในพรีเมียร์ลีก ครองอันดับ 2 ของตารางผู้ทำประตูสูงสุดในพรีเมียร์ลีก ปี 2023 ไป
อันดับ 1: อลัน เชียร์เรอร์
อลัน เชียร์เรอร์ คือหนึ่งในกองหน้าตัวเป้าสัญชาติอังกฤษที่ได้การยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดตลอดกาลทั้งในระดับพรีเมียร์ลีกและระดับโลก เขาคือเจ้าของสถิติผู้ทำประตูในพรีเมียร์ลีกสูงสุดตลอดกาลเบอร์หนึ่งที่ได้ลงเล่นในลีกฟุตบอลอังกฤษมาตั้งแต่สมัยก่อนเป็น “พรีเมียร์ลีก” โดยเขาอยู่ในระดับลีกสูงสุดของอังกฤษตลอดช่วงเวลาการค้าแข้งของเขา
เขาเริ่มการค้าแข้งมากับสโมสรเซาแทมป์ตันในปี 1988 ถึง 1992 ก่อนที่ลีกอังกฤษจะมีการก่อตั้งพรีเมียร์ลีกขึ้นมา แล้วเขาได้ย้ายไปเล่นให้กับแบล็คเบิร์นในปี 1992 ถึง 1996 พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์ลีกในปี 1994-95 มาได้อีกด้วย ตามด้วยการย้ายไปเล่นที่นิวคาสเซิลตลอดช่วงเวลาที่เหลือของการค้าแข้งถึงปี 2006
หลังจากรีไทร์ เขาได้ทำงานเป็นนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านพรีเมียร์ลีกให้กับทางช่องทีวี “บีบีซี” ตั้งแต่ปี 2006 ถึงปี 2009 ก่อนที่จะไปคุมนิวคาสเซิลเป็นการชั่วคราวในปี 2009 แต่ไม่สามารถพาทีมรอดจากการตกชั้นในฤดูกาลนั้นได้เลย หลังจากนั้นเป็นต้นมา เขาได้เริ่มทำงานเป็น Pundit อย่างจริงจังในแวดวงพรีเมียร์ลีกมาจนถึงปัจจุบันนี้
อลัน เชียร์เรอร์ คือดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกผู้ทำประตูได้สูงสุดตลอดกาลทั้งในช่วงที่เขาอยู่แบล็คเบิร์นและนิวคาสเซิล รวมกันอยู่ที่ 260 ประตูจากการลงเล่น 441 เกมและนี่ยังเป็นคงเป็นสถิติที่ท้าทายสุด ๆ สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ที่ต้องการจะล้มให้ได้
ทั้งหมดนี้ก็คือความเป็นมาของดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกตลอดกาลในปี 2023 โดยแต่ละคนจะมีเส้นทางความสำเร็จที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ดี สถิติดังกล่าวทั้งหมดนี้ยังมีโอกาสที่ผู้เล่นหน้าใหม่ในยุคใหม่สามารถขึ้นมาโค่นลงได้ หากพวกเขามีความสามารถมากพอที่จะทำได้จริง ๆ ในอนาคตข้างหน้านี้